ธุรกิจรับซื้อรถบรรทุกถือเป็นธุรกิจที่มีความสำคัญสำหรับกลุ่มธุรกิจขนส่งโลจิสติกส์ รวมไปถึงกลุ่มธุรกิจรับเหมาก่อสร้างด้วย เพราะกลุ่มธุรกิจนี้มีความจำเป็นที่จะต้องใช้งานรถบรรทุกทั้ง 6 ล้อและ 10 ล้อสำหรับการขนส่งวัสดุและสินค้าประเภทต่างๆ แต่รถบรรทุกเมื่อใช้งานมานานๆ ก็ย่อมมีการเสื่อมสภาพไปตามกาลเวลา ผู้ประกอบการหลายคนต้องการขาย จึงหาผู้รับซื้อมาประเมินราคา
แต่ปัญหาก็มีอยู่ว่า ผู้ประกอบการส่วนใหญ่ไม่ค่อยวางใจผู้ที่เข้ามารับซื้อสิบล้อเหล่านั้น เกรงว่าจะถูกประเมินราคาให้ต่ำกว่าสภาพความเป็นจริง ดังนั้น หากจะไม่ให้เสียเหลี่ยมเสียรู้ผู้ที่จะมารับซื้อ ผู้ที่จะขายจึงควรรู้ไว้ก่อนว่าเขาประเมินและตีราคารถบรรทุกเหล่านั้นจากอะไรบ้าง
แหล่งรับซื้อรถบรรทุกเริ่มที่การประเมินและตีราคาจากสภาพรถภายนอก
แหล่งรับซื้อรถบรรทุกทุกแห่งจะเริ่มต้นจากการดูสภาพรถภายนอกก่อน ถ้าโดยภาพรวมทุกอย่างอยู่ในสภาพที่ดี ก็จะประเมินราคาสูงใกล้เคียงกับราคารถบรรทุกมือสองในตลาด สิ่งที่พวกเขาจะพิจารณาก็จะมีดังนี้
- ตรวจสอบในส่วนของสัญญาณไฟต่าง ๆ ของรถ ทุกระบบสัญญาณไฟควรจะต้องใช้งานได้เป็นปกติ
- ตรวจสอบที่ปัดน้ำฝนว่าระบบยังทำงานเป็นปกติหรือไม่ ยางที่ปัดน้ำฝนเสื่อมไปมากน้อยแค่ไหน
- ตรวจสอบเรื่องสีรถและดูความผุกร่อนของส่วนต่างๆ
- ตรวจตะเข็บรอยต่อของตัวรถและในส่วนของห้องเครื่อง
- ตรวจสภาพห้องโดยสารโดยรวมทั้งหมด รวมถึงระบบที่ใช้ในการขับขี่ ระบบไฟ สวิตช์กุญแจ ระบบเปิด-ปิดกระจก รวมถึงสภาพเบาะ
สิ่งต่างๆ เหล่านี้ผู้ที่มารับซื้อรถบรรทุกจะทำการเช็กทั้งหมดและก็เริ่มตีราคาไว้ในใจคร่าวๆ ซึ่งถ้าเราต้องการให้รถยังสามารถขายได้ในราคาที่สูงอยู่ ก็คงจะต้องเริ่มต้นจากการดูแลรักษาและทำความสะอาดในส่วนต่างๆ ของรถเหล่านี้ให้อยู่ในสภาพที่สมบูรณ์ที่สุดเท่าที่จะทำได้ แต่ถ้าบางส่วนเสียหายไปแล้วก็คงต้องทำใจไว้ตั้งแต่ต้นว่า ราคาประเมินจะถูกปรับลงมาบ้างเล็กน้อย
สภาพภายในหัวใจสำคัญของการรับซื้อรถบรรทุก
หลังจากดูความเรียบร้อยภายนอกแล้ว ผู้รับซื้อรถหกล้อหรือรถสิบล้อ ก็จะดูอย่างละเอียดถึงในส่วนภายในรถที่เป็นส่วนกลไกระบบขับเคลื่อน ซึ่งได้แก่
- เครื่องยนต์และตัวถัง จะดูตั้งแต่เลขทะเบียนถูกต้องหรือไม่ และสภาพของเครื่องยนต์เก่าแค่ไหน การปล่อยควันของเครื่องยนต์เป็นอย่างไร ควันขาวหรือควันดำ
- เช็กระบบเกียร์ ซึ่งเป็นส่วนสำคัญอย่างมากของรถบรรทุก ตรงนี้มีผลต่อเรื่องการตีราคาอย่างมาก ถ้าเข้าเกียร์ยากราคาก็จะลดลงมา ถ้าเข้าเกียร์ได้ง่ายระบบขับเคลื่อนส่งกำลังได้ดีราคาก็จะสูง
- ตรวจสอบระบบแอร์ ถ้าแอร์มีเสียงดังมาก ราคาก็จะลดลง
ในส่วนของระบบภายในรถนั้น ถ้าเราไม่ชำนาญก็ลองให้ช่างผู้ชำนาญมาช่วยเช็กเบื้องต้นก่อนได้ ก็จะทำให้ทราบสภาพโดยรวมที่แท้จริง และได้ราคาประเมินไว้ในใจแค่นี้ก็ไม่เสียเหลี่ยมใครแล้ว
เหล่านี้คือจุดต่างๆ ที่ผู้รับซื้อรถบรรทุกทุกรายจะมาประเมินตรวจเช็กเพื่อตีราคารถที่เราจะทำการขาย เมื่อคุณรู้แบบนี้แล้ว ก็ตรวจสอบไว้ล่วงหน้า ประเมินราคาไว้ในใจได้เลย ถ้ารายไหนกดราคาและให้ราคาไม่เป็นธรรมกับคุณ จะได้เลี่ยงไม่ต้องทำการซื้อขาย และลองให้โอกาสผู้รับซื้อรายต่อๆ ไปที่จะทำให้คุณขายออกไปแล้วได้ความคุ้มค่าแบบนี้จะดีกว่า